Olympus PEN E-P5 คลาสสิคย้อนยุค



(Engadget) -- ฤดูใบไม้ผลิปีที่แล้วเราใช้เวลา 2 ชั่วโมงเดินทางจากตอนเหนือของแวนคูเวอร์ไปยังเมืองวิสเลอร์ที่นักเล่นสกีนิยมไปเล่นกันเพราะได้ข่าวว่า Olympus จะเปิดตัวกล้องรุ่นสำคัญ และเราต้องการไปเห็นด้วยตาตัวเอง แค่กล้องกล้องตัวอย่างที่เราเห็นอย่างเช่น OM-D E-M5 ก็คุ้มค่ากับการเดินทางมาที่นี่แล้ว เรารับรู้ได้ถึงคักยภาพและที่เรียกว่ากล้อง mirrorless ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยผลิตมาของ Olympus ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของอิมเมจ ระบบควบคุมการสั่นไหวแบบ 5 แกน five-axis image stabilization อันเป็นเอกลักษณ์และระบบออโต้โฟกัสที่เร็วจนไม่น่าเชื่อ เหล่านี้ล้วนเป็นฟีเจอร์เด่นๆทั้งนั้น ซึ่งทำให้เราทึ่งมาก พอเดือนที่แล้ว Olympus จะมีอะไรดีๆมาให้ดูอีก เราก็เลยไม่ลังเลที่จะเดินทางไปอีกครั้งและใช้เวลาทั้งวันไปกับกล้อง micro four third ระดับมาสเตอร์ของปีนี้

นี่คือ Olympus PEN E-P5 ที่คุณน่าจะทราบกันแล้วว่ากำลังจะวางตลาด ทั้งรายละเอียดและรูปของกล้องตัวนี้มีการนำเสนอไปสัปดาห์ที่แล้ว การออกแบบคลาสสิคงดงาม และสเป็คบางอย่างก็น่าสนใจไม่น้อย หลายอย่างแตกต่างไปจาก E-M5 รุ่นก่อน ใช้เซ็นเซอร์ 16MP five-axis image stabilization บันทึกวิดีโอ 1080/30p จอภาพ touchscreen เอียงชึ้นลงได้ ขนาด 3" 1.04M dot ความเร็วชัตเตอร์สูงสุด 1/8000 วินาที (เพิ่มความลึกในสภาวะกลางแดด) ช่วงความไวแสง ISO 100-25,600 เปิดเครื่องพร้อมใช้งานในเวลา 0.5 วินาที ระบบออโต้โฟกัสความเร็วสูงเช่นเดียวกับ OM-D E-M5 จับภาพวัตถุรวดเร็วดั่งสายฟ้า สเป็คที่บรรยายเป็นตัวหนักสือเหล่านี้น่าสนใจมาก จะเป็นอย่างไรเมื่อเราได้ลองสำผ้สจริงๆ มาดูกันต่อเลย

น่าเสียดายกล้องที่เราทดสอบที่เมืองวิสเลอร์ตัวนี้เป็นกล้องตัวอย่างเราเลยไม่ได้รับอนุญาตให้นำภาพและวิดีโอที่ทำการบันทึกไว้กลับมาด้วย เราทดสอบบันทึกภาพทั้งในห้องประชุม บนภูเนสในสภาวะแสงที่หลากหลาย ซึ่งเป็นเรื่องท้าทายสำหรับกล้องทุกตัว E-P5 ให้ภาพคมชัดด้วยช่องรับแสงที่แม่นยำและ white balance ทั้งจากภายนอกและภายใน ระบบออโต้โฟกัสเป็นเรื่องเหลือเชื่อ แน่นอนว่าเท่ากันกับ E-M5 ซึ่งเราก็ไม่คาดหวังว่า Olympus จะพัฒนาให้ดีกว่านั้นได้ภายในเวลาแค่ปีเดียว

และก็อย่างที่คุณทราบดีแล้วว่า E-P5 ไม่ได้มาแทน E-M5 เพราะมันไม่มี electronic view finder แต่สามารถใช้ VF-4 ขนาด 2.36M-dot ต่อกับ hot shoe แทนได้ Olympus ได้ทำการปรับแต่งต่าเซ็นเซอร์ดวงตาเล็กน้อยเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้จอ LCD เกิดความผิดพลาดเมื่อเปลี่ยนไปใช้งาน ไม่ต้องกลัวว่าจอ LCD จะดับหากถือกล้องอยู่ในระดับเอว และอีกอย่างที่ไม่มีก็คือซีลป้องกัน คุณคงต้องคิดให้ดีก่อนจะเอาไปถ่ายในวันฝนตก

การออกแบบของตัวกล้องเป็นแนวเดียวกับ Olympus PEN F กล้อง 35mm SLR ซึ่งเป็นที่นิยมมากในช่วงยุค 1960 ตัวหนังสือ Olympen PEN คาดขวางที่ด้านบนตัวกล้องโลหะ มีสีเงิน ดำ และสีขาวให้เลือก แต่เราชอบตัวสีเงินที่เอามาให้ชมมากกว่า อินเตอร์เฟส dual-dial interface แบบใหม่ เข้าถึงการปรับแต่งค่าต่างๆได้โดยตรงโดยขึ้นอยู่กับโหมดการใช้งาน ถ้าเลื่อนไปที่สีดำก็จะเป็นฟังชั่นทางเลือก ตัวอย่างเช่นปุ่มเลื่อนสามารถควบคุมช่องรับแสงและความเร็วชัตเตอร์พอเลื่อนไปที่ตำแหน่งที่สองก็จะเป็นการปรับ white balance และ ISO


ทุกวันนี้ผู้ผลิตทั้งหลายต่างพากันผลิตแต่กล้องไฮเอนด์กันทั้งนั้นแต่กล้องตัวนี้มีฟีเจอร์ WiFi นอกจากนั้นยังใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ Android หรือ iOS ที่มีแอพพลิเคชั่น OI Share ได้อีกด้วย แค่เปิด WiFi แสกน QR โค้ด จากนั้นก็บันทึกภาพและส่งตรงไปยังสมาร์ทโฟนหรือ tablet ของคุณได้เลย นอกจากนั้นยังสามารถอิมพอร์ทภาพที่บันทึกไว้แล้วเอาไปตกแต่ง filter และ watermarks ได้ด้วย แต่คุณสามารถใช้แอพพลิเคชั่นได้เฉพาะโหมด iAuto ก็เลยไม่มีออพชั่นให้ปรับแต่งมากนักทั้งช่องรับแสงและความเร็วชัตเตอร์ และ E-P5 ยังสามารถระบุตำแหน่งลงไปบนภาพเมมื่อใช้งานร่วมกับ GPS

ยังมีอะไรอีกมากสำหรับ Olympus PEN E-P5 อย่าพลาดติดตามรีวิวฉบับเต็มๆจากเราในอีกไม่กี่สัปดาห์จากนี้ ส่วนกำหนดวางตลาดเป็นปลายเดือนนี้ ราคา $1,000 ตัวกล้องอย่างเดียว และ $1,450 สำหรับกล้องและเลนส์ 17mm f/1.8 พ่วงด้วย VF-4 electronic view finder

ที่มา : Engadget
แปล, เรียบเรียง : thaiitnewsupdate.blogspot.com

Comments