รีวิว Samsung Galaxy S IV



(CNN) -- และแล้ว Samsung Galaxy S IV ก็มาอยู่ที่นี่แล้วตามคาด มันถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นสามาร์ทโฟนที่ดีที่สุดของปี 2013 จะเป็นอย่างไรต่อไปเพราะยังมี Apple iPhone และ Nexus ตัวเก่งของ Google ที่ยังไม่ถูกส่งออกมา แต่หลังจากไม่กี่นาทีที่ลองใช้งานมันคงจะเป็นสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดของปีนี้ได้ไม่ยากนัก

Samsung Galaxy S IV โดดเด่นด้วยจอภาพขนาด 5" ความละเอียดสูงถึง 1920 x 1080 พิกเซล ดีพอที่จะสู้กับสมาร์ทโฟนของ HTC, LG และ Sony ที่คุณกำลังจะได้เห็นต่อไป จอภาพขนาด 5" ของ Galaxy S IV ไม่ทำให้รู้สึกว่าใหญ่กว่าขนาด 4.8" ของ Galaxy S III เลยเพราะกรอบเครื่องใช้พื้นที่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

คุณภาพงานออกแบบพัฒนาไปอีกก้าวสำหรับตัวเครื่องทที่ทำจากพลาสติก แต่ยังไม่แน่นเหมือนกับ HTC One แต่ข้อได้เปรียบของพลาสติกคือน้ำหนักเบาเพียง 130 กรัม เบากว่า Android สมาร์ทโฟนที่ขนาดเล็กกว่าหลายรุ่นทีเดียว

ภายในบรรจุ RAM ขนาด 2GB กล้องหลัก 13MP กล้องหน้า 2MP แบตเตอรี่ขยายขึ้นไปอยู่ที่ 2600mAh หน่วยความจำภายในขนาด 16GB, 32GB และ 64GB ขยายเพิ่มได้อีกทาง microSD

อย่างไรก็ตามชิ้นส่วนสำคัญที่สุดของสมา์ทโฟนอย่างหน่วยประมวลผลยังถูกเก็บไว้เป็นความลับ

ทางด้านซอร์ฟแวร์ที่เปลี่ยนแปลงมากที่สุดจะใช้ระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ล่าสุดคือ Jelly Bean แต่ว่าข้อดีต่างๆในยการออกแบบของ Jelly Bean จะไม่แสดงให้เห็นเพราะว่า Samsung ยังคงใช้ Touch Wiz อินเตอร์เฟสของตนเองสรวมทับลงไปอีกที นั่นเป็นนิสัยของ Samsung ที่ทำให้สมาร์ทโฟนของพวกเขาเหมือนของเล่น อย่างไรก็ตามหลังจากทดลองใช้อินเตอร์เฟสนี้ก็ตอบสนองได้ดี

นอกจากนั้น Samsung ยังลงทุนในส่วนของซอร์ฟแวร์อย่างมากเพื่อให้มันโดดเด่นกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ อย่างเช่นสามารทตั้งค่าให้ตรวจจับการมองของคุณในขณะที่รับชมวิดีโออยู่ ถ้าคุณหันหน้าออกไปที่อื่นมันก็จะหยุดเล่น พอคุณหันกลับมามันก็เล่นต่อ เซอร์ไพรซ์ใช่ไหมล่ะ

Galaxy S IV ยังขอยืมฟีเจอร์ของ Galaxy Note มาใช้โดยโทรศัพท์จะตอบสนองเองได้แม้ว่าคุณไม่ได้สำผัสที่จอภาพก็ตาม ฟีเจอร์ Airview เพียงคุณเลื่อนนิ้วผ่านไปยังส่วนต่างๆบนจอภาพไม่ว่าจะเป็น message, mail หรือ Flipboard ก็จะแสดงข้อความหรือข้อมูลต่างๆในลักษณะ quickview โดยไม่ต้องเปิดเข้าไปในแอพพลิเคชั่น

gesture control ออกแบบใหม่ สามารถเลื่อนไปซ้ายขวา ขึ้นลง รวมทั้งเลื่อนหน้าเว็ปและเอกสารที่ใช้ text แต่หลังจากไม่กี่นาทีที่ทดลองใช้ก็รู้สึกว่ามันยุ่งยากไปหน่อย

แน่นอนยังมีฟีเจอร์ eye-scroll ที่น่าทึ่งยิ่งกว่า แต่ว่าคนละแบบกับเทคโนโลยีตรวจจับดวงตา eye-tracking หรือ finger-free ที่อยากจะให้มี สำหรับ Galaxy S IV จะตรวจจับเมื่อเวลาที่คุณจ้องมองที่จอภาพ แล้วคุณก็สามารถขยับพลิกตัวเครื่องเพื่อเลื่อนจอภาพได้ มันใช้งานได้แน่นอน แต่ว่าจะมีประโยชน์สักแค่ไหนในการควบคุม

สำหรับกล้อง Samsung เน้นเพิ่มในส่วนนี้ด้วยการนำเอาอินเตอร์เฟสของ Samsung Smart Camera มาใช้ มีโหมดบันทึกภาพอัจฉริยะ smart shooting เพิ่มความสนุกสนานและฟังชั่นในการบันทึกภาพ

Galaxy S IV ก็เหมือนๆกับ Nokia 920 คือสามารถสร้าง cinemagraphs ด่้วยการนำภาพหลายๆภาพมาเรียงซ้อนกันทำให้เกิดมิติการเคลื่อนไหว ชาวเน็ตต้องชอบมันมากแน่ๆ

มีโหมดใช้งานใหม่เพื่อสร้าง time-lapse photography และติดตามการเคลื่อนไหวของวัตถุหรือคนที่ผ่านเข้ามาในเฟรม

แต่โหมด eraser น่าจะมีประโยชน์มากที่สุด สามารถบันทึกภาพต่อเนื่อง 5 ภาพในช็อตเดียวและถ้าเกิดมีสิ่งไม่พึงประสงค์ผ่านเข้ามาระหว่างการบันทึก คุณสามารถลบสิ่งนั้นออกไปได้จากการแท็ปเพียงครั้งเดียว ในสถานะการณ์ที่คุณกำลังอยู่ระหว่างการพักผ่อนในสถานที่วุ่นวาย คุณจะต้องชอบฟีเจอร์นี้แน่นอน

camera-based translator สามารถแปลงตัวหนังสือจากเอกสารให้อยู่ในรูปแบบดิจิตอลเพื่อให้คุณสามารถนำไปจัดเก็บไว้ในโทรศัพท์ได้ เซ็นเซอร์ตรวจวัดระยะทาง pedometer ถูกติดตั้งไว้ภายในช่วยให้การใช้งานในรูปแบบของรีโมทคอนโทรลสำหรับทีวีของคุณเป็นเรื่องง่ายขึ้น

Galaxy S IV ยังสามารถปรับแต่งค่าลำโพงและการแสดงผลของมันเองได้อัตโนมัติเพื่อให้ได้ภาพและเสียงที่ดีที่สุดในทุกสภาวะหรือในทุกแอพพลิเคชั่น มันสามารถรับรู้ได้ว่าคุณกำลังชมภาพยนต์และจะปรับแต่งเสียงให้ชัดเจน มันสามารถรู้ได้ว่าคุณกำลังอ่านหนังสืออยู่ในที่แจ้งและจะปรับค่าความสว่างและความคมชัดให้เหมาะสมเพื่อปกป้องดวงตาของคุณ

S View Cover แม้จะเป็นแค่อุปกรณ์เสริมแต่ก็เจ๋ง มีจอภาพในตัวเอาไว้ใช้ดูเรื่องสำคัญๆอย่างสายที่ไม่ได้รับ ข้อความ หรืออีเมล์ เป็นฟีเจอร์ที่สามารถประหยัดแบตเตอรี่ได้ดีเพราะไม่ต้องเปิดจอหลัก

Samsung กำหนดเริ่มจำหน่าย Samsung Galaxy S IV ปลายเดือนเมษายนนี้ในสหรัฐอเมริกาโดยเครือข่ายหลักๆทั้ง AT&T, Sprint, T-Mobile และ Verizon รวมทั้งผู้ให้บริการรายย่อยอย่าง US Cellular และ Leap Wireless

ที่มา : CNN
แปล, เรียบเรียง : thaiitnewsupdate.blogspot.com

Comments