ทดสอบกล้อง iPhone 5

(TREK) -- ทุกครั้งที่ iPhone รุ่นใหม่เปิดตัวจะต้องมีเรื่องสนุกอยู่เสมอ และในฐานะที่เราเป็นช่างภาพแหล่งท่องเที่ยวสิ่งที่น่าตื่นเต้นก็คือมีอะไรใหม่ๆหรือการปรับปรุงที่ดีขึ้นสำหรับกล้องนั่นเอง iPhone 4S นั้นเรียกได้ว่าอัพเกรดเพิ่มขึ้นจาก iPhone 4 เยอะมาก และยิ่งเป็น iPhone 5 ด้วยแล้วก็ต้องคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมากกว่านั้นอีก

เพียงไม่กี่นาทีหลังจาก iPhone 5 เปิดตัวเราก็ได้สำผัส ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้นเราก็อยู่บนเที่ยวบินมุ่งหน้าสู่ไอซ์แลนด์เพื่ทำการทดสอบกล้องที่อัพเกรดมาใหม่ของโทรศัพท์สุดฮิปรุ่นนี้ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์พาโนรามา ความสามารถในสภาวะแสงต่ำ แม้กระทั่งความทนทาน

หลังจาก 48 ชั่วโมงกับการบันทึกภาพที่นี่ในไอซ์แลนด์ ผมบอกได้เลยว่านี่เป็นการอัพเกรดที่เหลือเชื่อจริงๆ

สำหรับคนที่เคยใช้ iPhone อยู่แล้วหากมาถือ iPhone 5 ไว้ในมือจะรู้สึกเทอะทะนิดหน่อย อย่างแรกเลยก็คือมันเบากว่า รู้สึกเหมือนของเล่น อย่างที่สองเป็นความสูงที่เพิ่มขึ้นมานั้นมันทำให้รู้สึกแปลกๆจนต้องใช้เวลาสักพักเพื่อทำความคุ้นเคย เมื่อใช้ภ่ายภาพพาโนรามา จะมีลูกศรบนจอภาพช่วยให้การรักษาระดับทำได้ง่ายสุดๆ มีพรีวิวภาพพาโนรามาที่คุณบันทึกให้ดูสดๆ เป็นฟีเจอร์ที่ผมยังไม่เคยเห็นกับกล้อง DSLR รุ่นไหนเลยนะ ผมพบว่าในสภาพอากาศหนาวเย็นและมือที่เปียกชื้นทำให้การจับถือโทรศัพท์นิ่งๆเพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดเป็นเรื่องยาก

ความสามรถในสภาวะแสงต่ำ

อาจเป็นเพราะว่าประสิทธิภาพในสภาวะแสงต่ำเป็นสิ่งที่เราคาดหวังมาก มันแตกต่างจากร iPhone 4S โดยสิ้นเชิง ระดับของ noise ลดลงมากและเลนส์ที่เร็วกว่าเดิมเยอะก็ทำให้การหาโฟกัสในสภาพที่เกือบจะมืดทำได้เยี่ยมทีเดียว

ความคิดที่ว่าการเชื่อมต่ออิมเมจเข้าด้วยกันแบบพาโนรามาจะยังสามารถใช้งานได้ดีในสภาวะแสงต่ำนั้นคงไม่ใช่ เพราะมีเกรนมากกว่าอย่างเห็นได้ชัดและอิมเมจก็มืดกว่าการถ่ายภาพแบบ single frame

ชัตเตอร์ความเร็วสูง

ความเร็วชัตเตอร์เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน นี่เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่แตกต่างจาก iPhone 4S อย่างมาก เพราะ iPhone 4S มีข้อจำกัดมากในการถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยความเร็วสูง แต่สำหรับ iPhone 5 แล้วผมพบว่าผมสามารถรัวกดชัตเตอร์ได้เร็วเท่าที่ผมจะทำได้และมันก็ตอบสนองได้เป็นอย่างดี (ชมภาพช็อตต่อเนื่องได้ที่ TREK)

ความทนทาน

ช่วงปลายเดือนกันยายนในไอซ์แลนด์นั้นไม่ใช่ที่ๆเป็นมิตรเท่าไหร่สำหรับอุปกรณ์อิเลคโทรนิค และคราวนี้เราก็เอาโทรศัพท์ของคุณมาทดสอบไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ก็ตาม เพียงแค่สองวันที่ถ่ายภาพกันที่นี่ผมทำ iPhone 5 เปียกตอนไปถ่่ายภาพใกล้ๆน้ำตกแถมจอร์แดนก็ดันทำ iPhone 5 ของเขาตกลงในโคลนอีก แต่ทั้งสองเครื่องก็ยังใช้งานได้เป็นปกติ

World Phone

โบนัสขิ้นใหญ่อีกชิ้นจาก iPhone 5 สำหรับนักท่องเที่ยวและช่างภาพก็คือ World Phone ความสามารถเชื่อมต่อได้กับเครือข่ายทุกแบบทั่วโลก ก็คือมีแต่เวอร์ชั่น unlocked หลังจากที่เราลงจากเครื่องไม่นานเราก็ไปที่ร้าน Nova (ผู้ให้บริการเครือข่ายสัญญาณหลักในไอซ์แลนด์) เพื่อซื้อซิมการ์ด หลังจากที่พนักงานในร้านหายตลึงเมื่อเห็น iPhone 5 เราก็ได้การเชื่อมต่อทั้งแบบข้อมูลและเสียง นาโนซิมของ iPhone 5 ถูกติติงนิดหน่อยแต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรนักแค่ใช้กรรไกรเราก็จัดการกับไมโครซิมที่ได้มาเรียบร้อย เราตัดมันแล้วก็ใส่เข้าไปโดยไม่มีปัญหาแอะไร

คุณคงสงสัยว่าทำไมผมต้องพูดเรื่องนี้ด้วยเพราะนี่เป็นการรีวิวกล้องเป็นหลักแต่สำหรับผมคิดว่ามันเป็นหนึ่งเดียวกันและเรื่องเดียวกัน ความจริงก็คือภาพถ่ายเกือบทั้งหมดจากช่างภาพจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นมืออาชีพหรือมือสมัครเล่นจะปรากฏที่ไหนสักแห่งบนเว็ปในเวลาเพียงไม่กี่นาทีหลังจากถูกบันทึก ความสามารถในการเชื่อมต่อเมื่ออยู่ต้องต่างประเทศเป็นเรื่องใหญ่มาก ไม่ใช่แค่จะโพสท์รูปบนอิสตาแกรม แต่เป็นการรักษาการติดต่อกับคนข้างล่างเอาไว้และคอยตรวจสอบว่าภูเขาไฟนี่จะระเบิดขึ้นมาเมื่อไหร่นั่นต่างหากล่ะ

Snapseed

ผมเกือบจะประสบความสำเร็จอย่างสูงเลยล่ะกับการใช้ Sanpseed แก้ไขอิมเมจบน iPhone 5 ของผม มันสุดยอดมาก ใช้ง่ายและแถมยังสนุกอีก มันเร็วมากแต่ว่าไม่ค่อยเสถียรนิดหน่อย ไม่แน่ใจว่าเกิดจาก iOS 6 หรือตัว iPhone 5 เอง อย่างไรก็ตาม NIK จะต้องส่งซอร์ฟแวร์อัพเดทออกมาอย่างด่วนเลย ข้อบกพร่องบางอย่างมันน่ารำคาญ พิกเซลแพทเทิ่ลประหลาดๆก็ไร้ประโยชน์ตอนที่คุณกำลังเซฟหรือ render

สรุป

ยุคที่คนเราเป็นผู้กำหนดรูปแบบการถ่ายภาพของ iPhone กำลังจะสิ้นสุด มันไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว คุณคงจะพูดว่า "ดูนี่สิผมทำอะไรกับเครื่องถ่ายคลิปนี่" ไม่ได้อีกต่อไป เพราะว่ามันไม่ใช่แค่คลิปอีกต่อไปแล้ว มันสามารถทำบางสิ่งที่แม้แต่กล้อง SLR ก็ยังทำไม่ได้ Apple ไม่ทำให้เราผิดหวังเลยกับความสามารถ iPhone 5 แทบจะทนรอไม่ไหวว่าปีหน้า Apple จะรังสรรอะไรใหม่ๆเกี่ยวกับการถ่ายภาพออกมาอีกในปีหน้า

ที่มา : TREK

แปล, เรียบเรียง : thaiitnewsupdate.blogspot.com