iPhone 5 ไปเอาชิพ A6 มาจากไหน?


(Engadget) -- เป็นเรื่องยากจริงๆหากจะไม่ให้ความสนใจกับชิพเซ็ท A6 ของ iPhone 5 ก็เพราะว่ามันพิสูจน์ให้เห็นประสิทธิภาพที่สูงขึ้นเป็นทวีคูณ อีกทั้งยังประหยัดไฟมากที่สุดในคลาสเดียวกัน แต่ของแบบนี้ใช่ว่าจะเกิดขึ้นได้ในช่วงข้ามคืนเสียเมื่อไหร่ แม่้กระทั่งจะใช้เวลาเป็นปีก็เถอะ


ซึ่งในความเป็นจริงแล้วนักวิเคราห์ชื่อ Linley Gwennap ได้สืบสาวร่องรอยที่มาย้อนไปถึงปี 2008 ช่วงที่ Steve Job เข้าซื้อบริษัทออกแบบชิพเซ็ทชื่อ P.A. Semi และก็แต่งตั้งให้หนึ่งในทีมทำงานออกแบบชิพเซ็ทที่แรงแบบบ้าคลั่งสำหรับอุปกรณ์พกพาเคลื่อนที่


ถึงแม้ว่า Apple จะเข้มงวดกับการเก็บข้อมูลชิ้นส่วนของพวกเขาเป็นความลับอย่างมาก แต่เรื่องราวของ A6 ที่บอกเล่าโดย Gwennap จะให้ทั้งความน่าเชื่อถือและน่าสนใจมากสำหรับคนที่ให้ความสำคัญกับที่มาของโทรศัทพ์ที่พวกเขาใช้อยู่ ในขณะที่ชิพเซ็ท A5 ยังติดแหง็กอยู่กับดีไซน์ Cortex-A9 ของ ARM, Gwennap กล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า A6 มีส่วนแตกต่างกันอย่างมาก ยังใช้โครงสร้างของ ARM เป็นหลักแต่เหมือนว่าจะผลิตโดย Samsung ด้วยกรรมวิธีก้าวล้ำ 32nm ซึ่งนี่เป็นเรื่องของวิสัยทัศน์ล้วนๆของผู้ผลิตชิพเซ็ทสำหรับอุปกรณ์พกพาเคลื่อนที่ๆควรจะมี และนี่คือความสำเร็จจากการทำงานอย่างหนักต่อเนื่องเป็นเวลา 4 ปีและเงินลงทุนที่อาจจะสูงถึงครึ่งพันล้านดอลล่าส์


ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องที่ว่าเป็นชิพเซ็ทตัวแรงที่สุดในขณะนี้หรือเป็นจุดขายของ iPhone 5 ทางด้าน Samsung ยังได้ทำการออกแบบชิพเซ็ทอันยอดเยี่ยมสำหรับสมาร์ทโฟนบางรุ่นของตนเอง Gwennap กล่าวว่า A6 เป็น dual core processor ที่ไม่ได้ซับซ้อนไปกว่า Sanpdragon S4 จากค่าย Qualcomm หรือ Cortex-A15 ที่กำลังจะออกสู่ตลาด ในขณะที่ clock speed ต่ำแค่ 1.2GHz เปรียบกับ 1.6GHz quard core Exynos ของ Note II หรือแม้แต่ 2GHz จากค่าย Intel ที่ใช้ใน Motorola RAZR i อย่างไรก็ตาม Gwennap คาดว่าถึงแม้ A6 จะกลายเป็นรองคู่ต่อสู้ในเรื่องประสิทธิภาพของ CPU แต่ก็ได้เปรียบในเรื่องประหยัดไฟ


ที่มา : Engadget

แปล, เรียบเรียง : thaiitnewsupdate.blogspot.com

Comments