IBM ไม่ปลื้ม หวั่น Siri พูดมาก
(WIRED) -- ถ้าคุณทำงานให้ IBM ที่นั่นอนุญาติให้นำ iPhone ไปใช้ที่ทำงานได้ แต่ถ้าจะใช้แอพพลิเคชั่นผู้ช่วยดิจิตอลล่ะก็ลืมไปได้เลย เครือข่ายของบิ๊กบลูเขาไม่ต้อนรับ Siri
แล้วทำไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ? ก็น้อง Siri เธอเล่นส่งข้อมูลทุกอย่างที่คุณพูดกับเธอกลับไปที่ศูนย์ข้อมูลต้นสังกัดที่ Maiden, North California โน่นน่ะสิ ไม่ว่าจะเป็นคำสั่งที่คุณให้เธอค้นหา อีเมล์ หรือแม้กระทั่งเรื่องตลกที่ไม่ค่อยจะสมควรก็ไม่เว้น
Jeanette Horan, CEO ของ IBM ให้สำภาษณ์กับ Technology Review ของ MIT ในสัปดาห์นี้่ว่าบริษัทของเธอแบนไม่ให้ใช้ Siri เพราะว่าทางบริษัทกังวลว่าข้อความสนทนาจะถูกนำไปเก็บไว้ที่ไหนสักแห่ง
ที่ Horan เป็นห่วงนั่นก็สมควรอยู่เพราะว่าคำยินยอมในการใช้งาน iPhone Software License Agreement ของ Apple ระบุไว้ชัดเจนว่า "เมื่อคุณใช้งาน Siri หรือ Dictation สิ่งที่คุณพูดออกไปจะถูกบันทึกและส่งไปที่ Apple เพื่อเปลี่ยนคำพูดของคุณเป็นตัวหนังสือ" Siri เก็บรวบรวมข้อมูลจำนวนมากมายมหาศาลทั้งรายชื่อที่อยู่ในสมุดรายนาม address book และข้อมูลของผู้ใช้งานอื่นๆที่ไม่ได้ระบุเพื่อช่วยให้ Siri ทำงานได้ดีขึ้น
Apple จะเก็บข้อมูลเหล่านี้ไว้นานแค่ไหนกัน และใครที่เห็นข้อมูลเหล่านี้บ้าง? Apple ไม่ได้บอกไว้แน่ชัด ในคำยินยอมการใช้งานเขียนไว้ว่า "ในการใช้งาน Siri และ Dictation คุณตกลงและยินยอมให้ Apple และบริษัทย่อยรวมทั้งตัวแทน ส่งถ่าย รวบรวม บำรุงรักษา ประเมิน และใช้ข้อมูลเหล่านี้รวมทั้งเสียงที่คุณสั่งและข้อมูลของคุณเพื่อนำไปปรับปรุง Siri และ Dictation และสินค้าและบริการอื่นๆของ Apple"
เนื่องจากข้อมูลบางอย่างที่ Siri เก็บรวบรวมไปนั้นเป็นข้อมูลส่วนตัวมากๆ American Liberties Union จรึงได้ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับ Siri ไว้เมื่อสองเดือนที่ผ่านมา
Edward Wrenbeck หัวหน้าทีมสร้าง Siri iPhone app ตัวแรกซึ่งสุดท้ายถูก Apple ซื้อไป กล่าวว่าความเป็นส่วนตัวนั้นเป็นสิ่งที่ผู้สร้าง Siri เป็นห่วงอย่างมาก และยิ่งมีภัยซ่อนเร้นสูงมากขึ้นไปอีกสำหรับผู้ใช้งานในรูปแบบธุรกิจ "แค่รู้สถานที่แน่นอนว่าคุณอยู่ที่ไหนกับลูกค้า ก็อาจเกิดการละเมิดข้อตกลงที่ห้ามเปิดเผยได้แล้ว"
แต่ว่า Wrenbeck ก็เห็นด้วยว่าปัญหาที่เกิดจากการรวบรวมข้อมูลของ Siri ก็เหมือนๆกันกับสิ่งที่บริษัทอินเตอร์เน็ทเผชิญอยู่ "ผมไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องน่ากังกลอะไรนักหรอก ผู้คนก็ได้ใช้งานโทรศัพท์เหล่านี้กันไปแล้ว บางที Siri อาจจะทำให้ชีวิตของพวเกเขาง่ายชึ้นมาบ้างนิดหน่อย แต่ไม่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเสียเมื่อไหร่กัน"
บริษัทอื่นก็เคยถูกกดดันจากกลุ่มสิทธิความเป็นส่วนตัวเรื่องวิธีการเก็บข้อมูลของลูกค้าของบริษัทเหล่านี้ อย่างเช่น Google ที่เป็นเรื่องราวใหญ่โตกับวิธีการจัดเก็บฐานข้อมูลผู้ใช้งานค้นหาจำนวนมหาศาลแต่ IBM ก็ไม่เห็นจะแบน Google แต่ว่ามีสิ่งสำคัญบางอย่างที่แตกต่างกันระหว่าง Siri กับ Google ที่อาจทำให้ IBM เป็นกังวลก็ได้ อย่างแรกคือ Siri สามารถใช้เขียน e-mail หรือว่าส่งข้อความได้ ดังนั้นในทางทฤษฎีแล้ว Apple อาจจะเก็บข้อความที่เป็นความลับของ IBM ได้
อีกอย่างที่ต่างกันก็คือหลังจาก Google ถูกโจมตีเรื่องความเป็นส่วนตัว ตอนนี้ Google เปลี่ยนรูปแบบผลการค้นหาใหม่ การแกะรอยผู้ใช้งานแต่ละคนถ้ายังไม่ถึงกับเป็นไปไม่ได้ก็ทำให้มันยากขึ้นไปอีก
ถ้า Apple เห็นด้วยที่จะทำอะไรแบบนั้น IBM อาจจะต้อนรับ Siri ก็เป็นได้
ที่มา : CNN
แปล, เรียบเรียง : thaiitnewsupdate.blogspot.com
Comments
Post a Comment