Google ทำข้อมูล e-mail ของ Gmail หายไปแล้วกู้กลับคืนมาได้อย่างไร?

Google เก็บสำรองข้อมูลไว้ในศูนย์ข้อมูลที่เป็นโกดังขนาดใหญ่หลายแห่งกระจายอยู่ทั่วโลก อย่างเช่นในรูปคือศูนย์ข้อมูลแห่งหนึ่งใน Oregon, USA

(CNN) -- เมื่อตอนต้นสัปดาห์ผู้ใช้งาน e-mail ของ Google นับแสนรายต่างถึงกับช็อคเมื่อพบว่า e-mail และ รายชื่อผู้ติดต่อของพวกเขาหายไป

Google กล่าวเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมาว่ากำลังทำการกู้ข้อมูลที่หายไปเหล่านั้นกลับคืนมาแต่อย่างไรก็ตาม "ต้องขออภัยอย่างมาก" Google เขียนในบล็อก

คำถามที่ถูกถามมากที่สุดตอนนี้ก็คือ Google ทำ e-mail เหล่านั้นหายไปได้อย่างไร และพวกเขากู้คืนกลับมาได้อย่างไร ถ้ามันหายไปแล้วจริงๆ

และคำถามที่ต้องขีดเส้นใต้ไว้ก็คือ เราควรจะเชื่อมั่นใน Google หรือไม่? พวกเขาปกป้องข้อมูลที่อ่อนไหวเหล่านั้นที่มีทั้งความสัมพันธ์กับธุระกิจและเรื่องส่วนตัวได้เหมาะสมหรือไม่? และมีอะไรเป็นการรับรองว่าพวกเขาจะปกป้องข้อมูลของเราให้ปลอดภัย? หรือเพียงแค่ Gmail นั้นเป็นบริการฟรี?

มาที่คำถามแรกกันก่อน

Google กล่าวว่าพวกเขาทำ e-mail หายเนื่องจากความบกพร่องในการอัพเดทโปรแกรมให้กับเซิร์ฟเวอร์

ถ้าคุณรู้จัก Google ดี คุณจะรู้ว่าพวกเขาเก็บข้อมูลสำรองไว้หลายฉบับที่ศูนย์เก็บข้อมูล เป็นโกดังขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีอยู่ทั่วโลกและตำแหน่งที่ตั้งก็ถูกปกปิดเป็นความลับ ดังนั้น e-mail ที่คุณส่งไปถึงคุณย่าเมื่อคืนนี้อาจไปซ่อนอยู่ที่ไหนซักแห่งในเอเชีย ยุโรป ฝั่งตะวันออกหรือตะวันตกของสหรัฐอเมริกา

Google โพสท์ข้อความเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า

"ผมรู้ว่าพวกคุณบางคนกำลังคิดว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรถ้าเรามีการเก็บข้อมูลสำรองไว้มากมายในสถานที่ๆแตกต่างกัน? ความบกพร่องของโปรแกรมบางอย่างส่งผลกระทบต่อข้อมูลสำรองหลายฉบับในทันที นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น ข้อมูลสำรองของ e-mail บางอย่างถูกลบออกไปและเราต้องทำงานอย่างหนักมากกว่า 30 ชั่วโมงเพื่อที่จะกู้มันกลับมา"

สรุปว่าเป็นความบกพร่องของโปรแกรม ถือว่ามีเหตุผลใช้ได้ แต่ว่า Google กู้ข้อมูลเหล่านั้นกลับมาได้อย่างไรถ้าความผิดพลาดนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง?

คำตอบก็คือ : Google ยังมีการสำรองข้อมูลด้วยเทปเหลืออยู่

ใช่แล้ว เทป เทคโนโลยีล้าสมัย Google ไม่ได้ระบุว่าใช้เทปแบบไหนแต่ Seth Weintraub ระบุใน Fortune.com ว่าการใช้เทปนั้นเป็นเรื่องยุ่งยาก

Weintraub ประเมินว่า Google ต้องใช้เทป 200,000 ม้วนสำหรับการสำรองข้อมูลของผู้ใช้งาน Gmail 1 บัญชี "นั่นต้องซ้อนเทปเป็นชั้นสูงถึง 4 กิโลเมตรเพื่อสำรองข้อมูล Gmail...โอ้ววว"

อย่างไรก็ตาม บล็อกศูนย์รวมความรู้ด้านข้อมูล Data Center Knowledge กล่าวว่าเทปยังเป็นวิธีการสำรองข้อมูลที่มีประสิทธิภาพถึงแม้ว่ามันจะดูล้าสมัยไปแล้วก็ตาม

"แม้กระทั่งปัจจุบันนี้ การใช้เทปนั้นมีข้อดีต่อสื่อมวลชนอยู่สองอย่างนั่นคือราคาและความคล่องตัว แต่สุดท้ายแล้วข้อดีเหล่านี้ก็ยังมีน้ำหนักไม่เพียงพอเพราะว่ามันเปราะบาง ต้องเปลี่ยนบ่อย ความผิดพลาดสูง ถูกขโมยได้ง่ายและเข้ารหัสข้อมูลที่เก็บไว้ไม่ได้

Google ให้เหตุผลดังนี้

"เพื่อปกป้องข้อมูลของคุณจากความผิดพลาดที่ไม่ปกตินี้ เราได้ทำการสำรองข้อมูลไว้ในเทปด้วย เพราะเทปไม่ได้ออนไลน์ มันจึงป้องกันความผิดพลาดที่เกิดจากโปรแกรมได้ แต่การกู้ข้อมูลจากเทปนั้นก็ต้องใช้เวลานานกว่าการสำรองข้อมูลชนิดอื่นๆ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงต้องใช้เวลานานกว่าจะกู้ e-mail กลับมาได้"

ก็ได้ นั่นเป็นเรื่องของตรรกะ แล้วคุณจะเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ได้อยางไรในเมื่อมีผู้ใช้งาน Gmail ได้รับผลกระทบ 0.02%? (Google บอกว่ามีผู้ใช้งาน Gmail นับร้อยล้านคน นั่นหมายถึงต้องมีผู้ได้รับผลกระทบไม่น้อยกว่า 20,000 ราย)

ผู้ชำนาญการในเรื่องการจัดเก็บข้อมูลหลายคนกล่าวว่าบริษัทอย่าง Google และคู่แข่งอย่าง Microsoft, Yahoo และ Dropbox จะเก็บซ่อนข้อมูลสำรองไว้ โดยปกติแล้วจะให้ความสำคัญในเรื่องการจัดเก็บข้อมูลมากกว่าคนธรรมดาทั่วไปอย่างเราๆที่มักจะเก็บสำรองข้อมูลไว้ในฮาร์ดดิสค์เพียงเท่านั้น

Google, Yahoo และรายอื่นๆมีแนวโน้มที่จะสำรองข้อมูลไว้หลายตัวและจัดเก็บไว้ในที่ต่างๆทั่วโลก ถ้าศูนย์จัดเก็บข้อมูลที่ไหนซักแห่งเกิดความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้หรือน้ำท่วมก็ยังมีแห่งอื่นที่ไกลออกไปที่ไม่ได้รับผลกระทบ

เพื่อให้เห็นภาพได้ชัดขึ้นลองคิดดูว่าถ้าอพาร์ทเม้นของใครถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก เขาหรือเธออาจจะสูญเสียแล็ปท็อปคอมพิวเตอร์และฮาร์ดดิสค์ที่ใช้สำรองข้อมูล พวกเราคงไม่มีใครส่งข้อมูลสำรองไปเก็บไว้ที่อินเดียเพื่อเผื่อเอาไว้ และมีน้อยมากที่จะสำรองข้อมูลไว้ในเทป

แต่ไม่สามารถรับรองได้ว่าทั้งหมด 100% เป็นแบบที่กล่าวมา

Google และบริษัทอื่นๆนั้นมีข้อกำหนดในการบริการ term of service ที่ได้ทำการตกลงกับผู้ใช้งานโดยรับรองเวลาที่แน่นอนที่สามารถใช้งานได้หรือ uptime ว่าปกติมีถึง 99.9%

"ผู้คนต่างคาดหวังกับ e-mail ว่าเชื่อถือได้เหมือนกับเสียงเรียกของโทรศัพท์ และเป้าหมายของเราคือการให้บริการที่เปิดใช้งานได้ตลอดเวลาด้วยแอพพลิเคชั่นของเรา" Matthew Glotzbach จาก Google โพสท์ไว้มนบล็อกของเดือนมกราคม

ปีที่แล้ว Google กล่าวว่าพวกเขาบรรลุเป้าหมายทำ uptime ได้ถึง 99.9% แล้ว

"ในปี 2010 Gmail ใช้งานได้ตลอดเวลาถึง 99.984% ของเวลาทั้งหมดทั้งสำหรับลูกค้าภาคธุรกิจและบุคคลทั่วไป ถ้าเปลี่ยน 99.984% เป็นเวลาก็จะได้เวลาที่ใช้งานไม่ได้หรือ downtime เป็นเวลา 7 นาที/เดือน ตลอดปีที่ผ่านมา เฉลี่ยเวลา 7 นาทีนั้นก็ประมาณเวลาล่าช้าเพียงไม่กีวินาทีโดยที่ผู้ใช้งานไม่ได้รู้สึกอะไรเลย"

อย่างไรก็ตามผู้ใช้งานยังคงโวยวายถ้า Gmail หรือบริการฟรีออนไลน์อื่นๆต้องหยุดชะงักลงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม Google และผู้ให้บริการรายอื่นต้องทำอะไรมากมายขนาดนั้นเพื่อป้องกันข้อมูลสูญหาย

มันเป็นเรื่องยากที่จะเปรียบเทียบบริการฟรี e-mail ของแต่ละแห่งเพราะว่าข้อมูลเรื่องเวลา uptime นั้นไม่ได้มีให้เสมอไป ทั้ง Microsoft ที่เป็นเจ้าของ Hotmail และ Yahoo ต่างปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลกับ CNN ว่าบริการของพวกเขาเกิดการ downtime บ่อยแค่ไหน หรือมีเปอร์เซนต์ uptime เท่าไหร่

เพื่อจะติดตามว่า Google ทำได้ดีเพียงใดในการรักษาระบบบริการ e-mail ของพวกเขาให้ทำงานได้อย่างต่อเนื่อง สามารถตรวจสอบไก้ใน App Status Dashboard ของ Google

ที่มา : CNN
แปล, เรียบเรียง : thaiitnewsupdate.blogspot.com

Comments