อนาคตของ BlackBerry

ในฮอลล์ที่แออัดยัดเยียดด้วยผู้คนที่ Barcelona ในงาน Mobile World Congress ผมเดินผ่านชายกลางคนที่กำลังขับรถสปอร์ตด้วยความเร็วที่น่าวิตก เขาคือ Jim Balsille ที่กำลังสาธิต tablet คอมพิวเตอร์โดยไม่ยอมให้ใครมาขัดจังหวะจนกระทั่งเขาแข่งจนจบเกมส์ หลังจากนั้น CEO ของ Research In Motion (RIM) รายนี้จึงวางเจ้า BlackBerry Playbook tablet ลงแล้วก็พูดอย่างชัดเจนกับผมว่า "อย่าคิดว่าบริษัทของผมจะยอมแพ้ในสนามแข่งสมาร์ทโฟน"

เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว Stephen Elop, CEO ของ Nokia ได้ประกาศความร่วมมือเรื่องสมาร์ทโฟนของ Nokia กับ Microsoft ว่า "ตอนนนี้จะเป็นการแข่งขันกันระหว่าง 3 แบรนด์เท่านั้น" และเขาไม่ได้นับ BlackBerry เข้าไปในรายชื่อเหล่านั้นด้วย

Balsille ดูเหมือนจะแปลกใจเมื่อผมบอกเขาว่า BlackBerry ของเขาถูกมองข้ามไปโดยมีเพียง Apple และ Android ที่กำลังอยู่ในความเสี่ยงที่จะถูกล้มโดย Nokia/Microsoft

"มีใครบางคนลืมพวกเราไปหรือไม่?" เขาถามด้วยความแปลกใจแล้วเขาก็บอกสถิติที่น่าสนใจให้ฟังว่า BlackBerry เป็นที่ 1 ในตลาดสหราชอาณาจักรในปี 2010, เป็นที่ 1 ในอเมริกา, เป็นที่ 2 ในตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกและยอดขายเพิ่มขึ้น 70% ในปี 2010

และเขายังวาดฝันที่จะขยายตลาดให้มากยิ่งขึ้นอีกในอนาคตโดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก Playbook ที่เขายังเหยียบคลัชอยู่ คุณอาจจะคิดว่ามี tablet มากมายในตลาดกับ Android รุ่นใหม่ที่น่าสนใจอย่างเช่นของ Samsung และ HTC แต่ Balsille คิดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ประเภทนี้และ Playbook ของเขาก็จะเป็นอุปกรณ์ที่โดดเด่น "นี่มันไม่ใช่แค่เพียง tablet อีกเครื่องหนึ่งเท่านั้น แต่มันคือ tablet" เขาบอกกับผม

แล้วเขาก็อธิบายสเปคของมันให้ฟัง - full Flash, full HTML5, หน่วยประมวลผล dual core, open web environment และ open tools คำว่า open ทยอยออกมาเรื่อยๆ เขาพูดอย่างชัดเจนโดยไม่ได้พาดพิงถึง iPad ว่า Playbook ทำอะไรได้เยอะแยะมากมายที่ Apple ทำไม่ได้ ในปรัชญาการต่อสู้ระหว่างกำแพงรอบๆ สวนของ Apple และ ป่าใหญ่อันเปิดกว้างของ Android นั้นชัดเจนว่าต้องนับ RIM เข้าไปด้วย

แล้ว Balsille พูดถูกหรือไม่เรื่องสักยภาพของบริษัทจากสแคนาดารายนี้ที่จะยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้? ท่ามกลางเสียงเซ็งแซ่ของ Apple, Android และ Nokia/Microsoft มันเป็นเรื่องง่ายที่จะลืม BlackBerry แต่เคยมีการเปลี่ยนแปลงที่นอกเหนือความคาดหมายเกิดขึ้นมาแล้วในเรื่องภาพลักษณ์ของ BlackBerry นั่นคือการเปลี่ยนภาพลักษณ์จาก e-mail รูปแบบธุรกิจที่ฝังรากลึกมาสู่ของเล่นเด็กวัยรุ่น บริการส่งข้อความฟรีของ BlackBerry ดูเหมือนจะเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมของคนหลายล้านคนในช่วงกลุ่มอายุ 15-25 ปี

ที่ควรจะน่าวิตกคือลูกค้ากลุ่ม hi-end อย่างเช่น chief information officer (CIO) ที่เริ่มแล้งน้ำใจทำในสิ่งที่ BlackBerry ไม่ค่อยพอใจเช่นจำกัดการใช้งานสมาร์ทโฟนของพนักงาน แอพพลิเคชั่นที่ใช้จะต้องได้รับการอนุมัติก่อนทำให้ผู้บริหารรุ่นใหม่หันไปหา iPhone แทน

แล้วเด็กวัยรุ่นเหล่านั้นจะยังคงภักดีกับ BlackBerry อยู่อีกหรือเปล่าเมื่อเขาโตขึ้น? หรือพวกเขาจะเปลี่ยนไปใช้สมาร์ทโฟนกลุ่มใหญ่อย่างเช่น Android หรือแม้แต่กระทั่ง Windows Phone 7?

ผลการวิจัยที่น่าสนใจจาก MediaCells จากข้อมูลตลาดในสหราชอาณาจักรของปี 2010 และทำการคาดการในปีนี้ระบุว่าอย่างน้อยในช่วงระยะเวลาสั้นๆ BlackBerry จะยังไม่ถูกตัดออกจากการแข่งขัน MediaCells ระบุว่าระบบปฏิบัติการทุกแบบยกเว้น Symbian จะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ลองทายดูสิว่าใครจะเป็นผู้นำ? ใช่แล้ว BlackBerry ตามมาด้วย Andrid, Apple และ Windows Phone 7 มาเป็นอันดับ 4

"RIM จะยังคงมีลูกค้าเพิ่มขึ้นเนื่องจากความไม่สมบูรณ์ของระบบปฏิบัติการหลายๆแบบ ผู้ใช้งานเครือข่ายสังคมต้องการ QWERTY คีย์บอร์ดที่สามารถอัพเดท Twitter และ FaceBook ได้มากๆ"

การแจกรางวัลในงานที่ Barcelona ในครั้งนี้ iPhone 4 ได้รางวัลอุปกรณ์แห่งปี ส่วน HTC ได้รางวัลผู้ผลิตแห่งปี

ในอุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่ๆกำลังหลงไหลใน Android ยกเว้น Apple คงถึงเวลาที่จะต้องจับตาดู BlackBerry กันบ้างแล้ว

ที่มา : BBC
แปล, เรียบเรียง : thaiitnewsupdate.blogspot.com