ระวังการใช้งาน mobile banking


NEW YORK (CNN) -- ไม่ต้องสนใจว่ามีอะไรอยู่ในกระเป๋าสตางค์แต่ระวังสมาร์ทโฟนของคุณเอาไว้ให้ดี มันกำลังจะกลายเป็นสิ่งอันตรายที่สุดอย่างหนึ่งที่คุณมีไว้ในครอบครอง

ถ้าโทรศัพท์มือถือของคุณถูกขโมยไปเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ขโมยอาจจะแค่ใช้โทรศัพท์ของคุณโทรออกหรืออ่านข้อความของคุณ แต่ในวันนี้เจ้าขโมยคนนั้นสามารถทำลายชีวิตของคุณและสร้างความเสียหายกับการเงินของคุณได้

ตอนนี้สมาร์ทโฟนเป็นทั้งกระเป๋าสตางค์และบัญชีธนาคาร ผู้ใช้งานสามารถบริหารการเงิน โอนเงิน ชำระเงิน ขึ้นเช็ค และใช้แทนบัตรเครดิต มันมีค่ามากสำหรับเหล่าหัวขโมย 30% ของผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือใช้ iPhone, BlackBerry และ Driod มีผู้คนจำนวนมากอยู่ในกลุ่มเสี่ยง

"มันบ้าจริงๆกับปริมาณข้อมูลที่ถูกเก็บไว้ในโทรศัพท์เหล่านั้น เหมือนกับคุณถือคอมพิวเตอร์ตัวจิ๋วไปไหนมาไหนด้วย เว้นแต่คนส่วนมากรู้จักวิธีตั้งค่าคอมพิวเตอร์มากกว่าโทรศัพท์มือถือ ผู้ใช้งานอยู่ในความเสี่ยงอย่างไม่น่าเชื่อในขณะที่เทคโนโลยีปรับปรุงเพิ่มขึ้น" Nikki Junker ผู้ประสานงานเครือข่ายสังคมและให้คำแนะนำแก่ผู้เคราะห์ร้ายที่ Identity Theft Resource Center

จากข้อมูลของ TowerGroup บริษัทวิจัยการบริการทางการเงิน พบว่าการใช้โทรศัพท์มือถือทำธุรกรรมทางการเงินหรือ mobile banking จะเพิ่มขึ้นสูงถึงเกือบ 55% ในปีหน้า

ผู้บริโภค 17.8 ล้านคนใช้ mobile banking เมื่อปีที่แล้ว คาดว่าปีนี้จะมีประมาณ 27.4 ล้านคน และ 53.1 ล้านคนในปี 2013

"เราผ่านการใช้งานตอนช่วงแรกเริ่มมาแล้ว ตอนนี้กำลังเข้าสู่ช่วงกลาง เราหันมาใช้เวลากับสมาร์ทโฟนแทนคอมพิวเตอร์มากขึ้น และธนาคารก็ต้องการจะไปอยู่ที่สมาร์ทโฟนเช่นกัน" George Peabody ผู้อำนวยการผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีแขนงใหม่ของ Mercator Advisory Group กล่าว

Google จะเป็นกำลังขับเคลื่อนให้กับกระเป๋าสตางค์เคลื่อนที่ mobile wallet ของคุณหรือเปล่า?

ปริมาณการจ่ายเงินผ่านโทรศัพท์มือถือหรือ mobile payment อย่างเช่นซื้อรองเท้าบู้ทผ่าน Zappos แอพพลิเคชั่นของ iPhone จากข้อมูลของ Aite Group บริษัทวิจัยการให้บริการทางการเงินอีกแห่งหนึ่ง คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นถึง $214 พันล้านเหรียญในปี 2015 จาก $16 พันล้านเหรียญในปี 2010

และการจ่ายเงินด้วยโทรศัพท์มือถือหรือ pay-by-phone ทำได้สะดวกขึ้นเพราะโทรศัพท์ของเรามี Near Field Communication (NFC) ติดตั้งมาให้ด้วย ทำให้เราจ่ายค่ากาแฟลาเต้ในตอนเช้าได้ง่ายดายเพียงแค่เอาโทรศัพท์ไปแตะที่เครื่องจ่ายเงิน

Blaze Mobile และ Bling Nation ให้คุณจ่ายเงินที่ร้านค้าปลีกรายใหญ่ๆได้เพียงแค่เอาโทรศัพท์ไปแตะที่เครื่องจ่ายเงิน ขอบคุณสติกเกอร์ NFC ที่ติดมากับโทรศัพท์ มันทำงานด้วยแอพลลิเคชั่นที่สร้างขึ้นโดย mFoundry โดยจะนำเอาบาร์โค้ดของบัตรเติมเงินสตาร์บัคมาไว้ที่โทรศัพท์ของคุณแล้วก็นำไปแสกนที่เครื่องจ่ายเงินแทนบัตรเครดิต

ระวังโทรศัพท์ของคุณไว้! การโจมตีระบบรักษาความปลอดภัยของสมาร์ทโฟนเพิ่มสูงขึ้นมากที่สุดในปี 2010 จากรายงานของ AdaptiveMobile บริษัทระบบรักษาความปลอดภัยโทรศัพท์มือถือสากล การโจมตีเน้นไปที่สมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Andriod ของ Google ถึง 4 ส่วนและสมาร์ทโฟนที่ใช้ Java แอพพลิเคชั่นพุ่งขึ้นสูงถึง 45%

"คนชั่วจะตามไปในที่ๆคนอื่นเขาไปกัน และคนก็กำลังหันไปใช้สมาร์ทโฟน และราคาสมาร์ทโฟนก็ลดลงอย่างต่อเนื่องทำให้สามารถซื้อหามาใช้ได้เพิ่มมากขึ้น มันเป็นที่แห่งใหม่ของพวกคนชั่วอย่างแน่นอน" Peabody กล่าว

การใส่รหัส password และล้อคโทรศัพท์ของคุณไว้เสมอเป็นการเริ่มต้นที่ดี แต่ก็ไม่สามารถปกป้องคุณจากพวกขี้โกงระดับมืออาชีพได้

"อย่าคิดว่าใส่ password ไว้ในโทรศัพท์มือถือของคุณแล้วจะไม่มีใครเข้าได้ มันเป็นการป้องกันระดับต่ำมากๆ คุณสามารถหาดูวีดีโอความยาวเพียง 30 วินาทีที่ใช้ถอดรหัสสมาร์ทโฟนจาก YouTube" Junker กล่าว

เวปไซท์: อันตรายมากกว่าที่เคย

ถ้าคุณใช้ mobile banking หรือจ่ายเงินออนไลน์อยู่เสมอๆคุณควรจะลงทุนกับ anti-virus และตรวจสอบกับธนาคารของคุณว่ามีระบบรักษาความปลอดภัยหรือระบบป้องกันการโจรกรรมข้อมูลส่วนตัวที่คุณสามารถใช้ได้หรือไม่

สมาร์ทโฟนเกือบทั้งหมดมีบริการรีโมทลบข้อมูลอย่างเช่น MobileMe ของ iPhone ที่จะทำการลบข้อมูลบนโทรศัพท์ของคุณโดยอัตโนมัติถ้าหากคุณแจ้งว่าสูญหายหรือถูกขโมยไป

ถ้าคุณทำธุรกรรมทางการเงินโดยตรงกับเว็ปไซท์โดยไม่ผ่านแอพพลิเคชั่น คุณจะต้องระมัดระวังเพิ่มมากขึ้นเป็นพิเศษตอนที่พิมพ์ชื่อเวปไซท์ บางครั้งพวกโจรกรรมข้อมูลจะสร้างโดเมนที่มีชื่อเดียวกันกับธนาคารใหญ่ๆแต่สลับตัวหนังสือเพียงสองตัวเพื่อรอให้ผู้ใช้งานเกิดพิมพ์ผิดพลาดแล้วหลงเข้าไปใส่ชื่อผู้ใช้งานและ password Junker กล่าว

และให้แน่ใจว่าคุณ log out ออกจากแอพพลิเคชั่นของธนาคารหรือเวปไซท์หลังจากที่ข้อมูลการเงินของคุณถูกเก็บไว้เรียบร้อยแล้วโดยเร็วที่สุด ข้อมูลส่วนตัวของคุณที่เก็บไว้ในโทรศัพท์ยังมีความเสี่ยงอยู่หากโทรศัพท์ของคุณถูกขโมยไป คุณจะต้องเสียเวลาไปลบข้อมูลออกหากแน่ใจว่าโทรศัพท์ของคุณถูกขโมยไปแล้ว

ที่มา : CNN
แปล, เรียบเรียง : thaiitnewsupdate.blogspot.com

Comments