Feature Phone โทรศัพท์มือถือ low tech ไม่มีวันตาย
(CNN) -- คนที่เขียนหรืออ่านข่าวเทคโนโลยีมักจะลืมไปว่ากลุ่มผู้ใช้งานโทรศัพท์ส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกาประมาณ 70-75% และ 95% จากทั่วโลกไม่ได้ใช้สมาร์ทโฟน, tablet หรืออุปกรณ์พกพาเคลื่อนที่สมัยใหม่
นอกจากนั้นผู้ใช้งาน feature phone หรือโทรศัพท์มือถือธรรมดาก็ไม่ได้มีแนวโน้มว่าจะเปลี่ยนมาใช้สมาร์ทโฟนในเร็ววันนี้ เหตุผลหลักก็คือต้องการประหยัด แต่บางครั้งพวกเขาก็ชอบเทคโนโลยีง่ายๆ แต่ไม่ได้ทำให้ผู้ใช้งาน feature phone ออกห่างจากการใช้งานอินเตอร์เน็ททางโทรศัพท์มือถือ
ก่อนหน้านี้คำจำกัดความของสมาร์ทโฟนคือโทรศัพท์ที่ใช้งานโปรแกรมหรือแอพพลิเคชั่น และใช้ระบบปฏิบัติการที่ทันสมัยกว่า ส่วน feature phone นั้นเรียบง่ายกว่า แต่การเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันทำให้โทรศัพท์ทั้งสองแบบคล้ายคลึงกันมากขึ้น
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Facebook เปิดให้ใช้งานแอพพลิเคชั่นใหม่สำหรับ feature phone เนื่องจากมีความต้องการใช้งานสูงมากและเป็นไปได้ว่ามันจะยังคงมีสักยภาพสูงในการกำหนดทิศทางของโทรศัพท์มือถือต่อไปอีกหลายปี
และข้อบ่งชี้อีกอย่างหนึ่งก็คือเรื่องของการใช้งาน ผู้ใช้งานสามารถทำอะไรกับโทรศัพท์ของพวกเขาได้บ้าง เส้นแบ่งระหว่างสมาร์ทโฟนกับ feature phone เริ่มไม่ชัดเจนในบางครั้ง จากมุมมองของผู้ใช้งานส่วนใหญ่เห็นว่าความแตกต่างนี้เริ่มไม่มีความสำคัญหรือไม่มีความหมาย
แอพพลิเคชั่นใหม่ของ Facebook สร้างขึ้นสำหรับแพลทฟอร์มของ feature phone ที่รองรับการใช้งานแอพพลิเคชั่นของ Snaptu Java-enable โดยจะทำหน้าที่เก็บเแพพลิเคชั่นสำหรับ feature phone เมื่อผู้ใช้งานติดตั้งโปรแกรม Snaptu ลงบนโทรศัพท์จะสามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นได้มากมาย
นอกจาก Facebook แล้ว ยังมีแอพพลิเคชั่นของ Snaptu สำหรับ Twitter, Picasa, RSS reader, ESPN Cricket sport news และ Accuweather และแอพพลิเคชั่นอีกมากมายบน Stanppstore แอพพลิเคชั่นสโตร์ของ Snaptu
ไม่เพียงมีแค่ Snaptu ในตลาดนี้เท่านั้นแต่ยังมี Getjar Java-enable และ BREW แพลทฟอร์มของ Qualcomm โดยทั่วไปแล้ว (แต่ก็ไม่เสมอไป) ผู้ให้บริการเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์จะสนับสนุนหรือเจาะจงแอพพลิเคชั่นแพลทฟอร์มสำหรับ feature phone ที่แน่นอน แต่บางแห่งสามารถใช้ได้หลากหลาย
แอพพลิเคชั่นใหม่ของ Facebook สำหรับ feature phone ขณะนี้ให้ใช้งานได้ภายนอกประเทศสหรัฐอเมริกา ผ่านทางผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่ยอมรับข้อตกลงว่าจะไม่คิดค่าบริการในการใช้แอพพลิเคชั่นนี้อย่างน้อยก็ระยะเวลาหนึ่ง
นี่เป็นก้าวย่างที่ชัดเจนและฉลาดของ Facebook ที่ต้องการเพิ่มกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้งานในโลกที่กำลังพัฒนา ซึ่งผู้ใช้งานส่วนใหญ่ใช้โทรศัพท์มือถือโดยเฉพาะอย่างยิ่ง feature phone เป็นหลักในการเข้าถึงอินเตอร์เน็ท
ในปีที่แล้ว Facebook เปิดให้ใช้งานเวปไซท์สำหรับโทรศัพท์มือถือ Zero (0.facebook.com) โดยผู้ให้บริการเครือข่ายนอกสหรัฐอเมริกาเช่นเดียวกัน แต่ดูเหมือนกับว่าแอพพลิเคชั่น Snaptu ของ Facebook มีเป้าหมายเพื่อต้องการปรับปรุงให้ดีขึ้น
ในสหรัฐอเมริกานั้นคุณสามารถใช้งาน Facebook ผ่าน feature phone ได้ที่เวปไซท์ m.facebook.com แต่อาจจะมีค่าใช้จ่ายโดยขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นที่คุณใช้
นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่หรือน่าแปลกใจแต่อย่างใด เว้นแต่คุณติดตามอ่านแต่เฉพาะข่าวเทคโนโลยีที่เป็นกระแสหลักของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
นั่นคือสิ่งที่ฉันกำลังจะบอก ฉันไม่สงสัยเลยว่าทำไมผู้ติดตามข่าวเทคโนโลยีของ CNN หรือจากแหล่งข่าวอื่นที่คล้ายคลึงกันต่างพากันแปลกใจว่า "ใครจะสนใจ feature phone?" คำตอบก็คือผู้ให้บริการเครือข่าย อ้อ..แล้วก็ 3 ใน 4 ของผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือในสหรัฐอเมริกาและ Facebook
แล้วทำไมในข่าวกระแสหลักทางเทคโนโลยีถึงไม่มีการพูดถึงการพัฒนา feature phone? นี่เป็นจุดบอดที่ใหญ่มากของสื่อสารมวลชน ถูกต้องที่ว่า feature phone ไม่ใช่สินค้าหลักเหมือนอย่างเช่นฮาร์ดแวร์ แต่สิ่งที่ผู้คนสามารถที่จะทำอะไรกับมันได้นั้นกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในเดือนมีนาคมปีที่แล้ว GigaOm หมายเหตุไว้ว่าเมื่อ feature phone เริ่มใช้แอพพลิเคชั่นได้มันจะกลายเป็นม้ามืดตัวใหม่
"ผู้ประกอปการเครือข่ายหลายแห่งเคยมีประวัติในเรื่องการขาดวิสัยทัศน์เมื่อเริ่มให้บริการใช้งานแอพพลิเคชั่นกับโทรศัพท์มือถือ ทำให้ข้อเสนอการบริการไม่ได้รับการตอบรับ แต่แอพพลิเคชั่นสโตร์กลับได้รับการตอบรับอย่างสูง" Gigaom กล่าว
"แต่ผู้ประกอปการเหล่านี้กำลังแสดงความมุ่งหมายที่จะให้บริการในรูปแบบที่ทันสมัยแก่ผู้ใช้งาน feature phone ซึ่งเป็นลูกค้าส่วนใหญ่ และนั่นไม่ใช่แค่เพียงข่าวดีสำหรับผู้ใช้งาน feature phone เพียงเท่านั้นแต่ยังรวมถึงนักพัฒนาโปรแกรมที่เป็นส่วนหนึ่งในวงจรแอพพลิเคชั่นสำหรับโทรศัพท์มือถืออีกด้วย"
ในภาพรวมนั้นผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือส่วนใหญ่ดูเหมือนว่าจะไม่น่าจะเร่งรีบที่จะใช้นวัตกรรมที่มีประโยชน์และสร้างสรรค์ที่สุด
ฉันคาดว่าในทศวรรษที่กำลังจะถึง นวัตกรรมที่ใหม่ที่สุดและมีอิทธิพลมากที่สุดในการพัฒนาโทรศัพท์มือถือจะเป็นการรวมเอาเทคโนโลยีทั้งหมดเข้าด้วยกัน แล้วอุปกรณ์ระดับไฮเอนด์ที่กำลังเป็นที่สนใจอยู่ตอนนี้ก็จะเริ่มเสื่อมความนิยมลง
จะมีโทรศัพท์มือถือ low tech อยู่เสมอ และนั่นเป็นโอกาศที่ยาวนานของ Facebook, Twitter เช่นเดียวกันกับ Nokia, LG, Samsung และผู้ผลิตรายอื่นๆอย่างแน่นอน
ที่มา : CNN
แปล, เรียบเรียง : thaiitnewsupdate.blogspot.com
Comments
Post a Comment