เทคนิค 5 ข้อในการควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อออนไลน์


(CNN) -- การสูญเสียการควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเองเมื่อทำการออนไลน์นั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่ายมาก แต่การปฏิบัติตามข้อควรระวังบางอย่างสามารถช่วยคุณรักษาข้อมูลส่วนบุคคลในขณะเล่นเวปได้

เรามีเทคนิค 5 ข้อในการช่วยรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ

1. ปรับแต่งค่าความเป็นส่วนตัว privacy setting เมื่อใช้งานเครือข่ายสังคม social network

Facebook ปรับปรุงการปรับแต่งค่าความเป็นส่วนตัว privacy setting ให้ง่ายขึ้นด้วย search box ปัจจุบันฟีเจอร์นี้สามารถเข้าใช้งานจากสมาร์ทโฟนได้

คุณสามารถตั้งค่าข้อมูลส่วนตัว profile ของคุณในหน้าปรับแต่ง setting page ว่าต้องการอณุญาติให้ดูได้เฉพาะเพื่อนๆที่ได้รับอณุญาติ หรือกับเพื่อนของเพื่อน หรือให้ดูได้ทุกคน เนื่องจากแต่ละคนมีมาตรฐานความเป็นส่วนตัวแตกต่างกัน และคุณสามารถเลือกปรับแต่งค่าอย่างละเอียดได้

นอกเหนือจากนั้น ใช้ super-logoff ตามแบบที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นอเมริกา

Twitter เครือข่ายสังคมที่โด่งดังอีกแห่งหนึ่ง ให้คุณสามารถล้อคบัญชีของคุณไม่ให้คนที่ไม่ได้รับอณุญาติเข้าดูได้ ด้วยการปรับค่าใน protect my tweets

2. แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลส่งผ่านการเชื่อมต่อที่ปลอดภัย secure connection

เมือส่งหมายเลขเครดิตการ์ด ข้อมูลบัญชีธนาคาร รหัสผ่าน ให้ตรวจสอบสัญลักษณ์รูปแม่กุญแจที่ address bar ของ browser ซึ่งเป็นตัวแสดงว่าเป็นการเชื่อมต่ออย่างปลอดภัย secure connection เทคโนโลยีนี้จะทำการเข้ารหัสลับกับข้อมูลที่คุณรับส่ง ป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นเข้าถึงข้อมูลของนั้นๆ

3. พิจารณายกเลิกการถูกสะกดรอยจากโฆษณา ad tracking
บ่อยครั้งที่โฆษณาออนไลน์จะติดตั้งไฟล์เล็กๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เข้าไปดูโฆษณานั้นๆ อาจเรียกง่ายๆว่า cookies ที่สามารถเก็บความจำเกี่ยวกับนิสัยในการท่องเว็ปของคุณ ทำให้ผู้โฆษณาสามารถส่งโฆษณาที่คุณสนใจให้คุณได้

แต่ถ้าเราไม่ต้องการถูกสะกดรอยแบบนั้นล่ะ?

สำหรับผู้เริ่มใช้งานใหม่ เวปเบราซ์เซอร์จะมีฟีเจอร์ให้คุณปิดการใช้งาน cookies ที่มาจากเวปไซท์ที่คุณไม่ต้องการ ทำให้คุณสามารถหยุดยั้งเครือข่ายโฆษณามากมายจากการเข้าถึงกิจกรรมบนเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณอย่างรวดเร็ว

มีองค์กรสองแห่งที่ให้ระบบการยกเลิกการถูกสะกดรอยของเครือข่ายโฆษณาที่โด่งดัง นั่นคือ Network Advertising Initiative และ PrivacyChoice.org ช่วยให้คุณยกเลิกการถูกสะกดรอยได้เพียงคลิกไม่กี่ครั้ง คุณจำเป็นจะต้องทำกับเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่คุณใช้ แต่จำไว้อย่างหนึ่งว่า บริษัทโฆษณาบางแห่งจะยังคงสะกดรอยคุณอยู่ถึงแม้ว่าคุณจะเลือกไม่ให้เขาทำอย่างนั้นไปแล้วก็ตาม

เช่นเดียวกับการโฆษณาที่เห็นใน TV ผู้โฆษณาจ่ายเงินเพื่อให้กับเวปไซท์โฆษณาที่มีอยู่มากมาย การยกเลิกการถูกสะกดรอยไม่สามารถสลัดโฆษณาให้หลุดไปได้ ผู้เห็นด้วยกับการสะกดรอยแบบนี้กล่าวว่า มันสร้างความรำคาญให้ผู้คนเพิ่มมากขึ้นเพราะว่ามันมีความเกี่ยวข้องกับผู้ใช้งานน้อยมาก

4. ใช้ฟีเจอร์การท่องเวปแบบส่วนตัวหรือติดตั้ง VPN
เวปเบราซ์เซอร์สมัยใหม่ให้การป้องกันพิเศษอีกชั้นหนึ่งเรียกว่า private หรือ stealth browsing ซึ่งจะป้องกัน cookies และไม่ล้อคข้อมูลการเข้าชมเวป

เพื่อการป้องกันที่เข้มงวดกว่า คุณสามารถติดตั้ง Vitual Privae Network หรือ VPN ซึ่งจะเข้ารหัสกิจกรรมทุกอย่างที่คุณทำบนเวปเมื่อเปิดใช้งาน VPN มีบริษัทมากมายที่ให้พนักงานใช้งานฟีเจอร์นี้ที่จะทำการส่งข้อมูลกลับไปยังผู้ให้บริการเซิฟเวอร์ มี VPN หลายแบบให้ดาวน์โหลดได้ฟรี

โปรแกรมที่มีประโยชน์อย่างอื่นเช่น Little Snitch จะรายงานทุกครั้งเมื่อพบว่าซอฟแวร์อาจทำการบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง ทุกครั้งที่แอพพลิเคชั่นบนเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณพยายามส่งข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ทโดยไมได้รับอณุญาติจากคุณ จะมีการแจ้งเตือนให้คุณทราบ

5. คิดก่อนจะโพสท์
อาจจะฟังดูแล้วก็แน่นอนล่ะสำหรับบางคน แต่ถ้าคุณกำลังโพสท์ข้อมูลบนเซิฟเวอร์ของบริษัท คุณจะมั่นใจได้เพียงเล็กน้อยว่ามันจะไม่ถูกคนอื่นพบเห็นในภายหลัง

ถึงแม้ว่าความเป็นส่วนตัวถูกตั้งค่าไว้แล้วก็ตาม เครือข่ายสังคมอาจเปลี่ยนนโยบายในภายหลัง ระบบอาจจะทำให้เกิดช่องว่างที่เปราะบางสำหรับ search bots หรือ hackers เพื่อนที่คุณเคยไว้วางใจอาจพบเห็นรูปงานปาร์ตี้ของคุณและส่งไปให้คนอื่นดู

ใช้สมอง ถ้าคุณไม่อยากให้อะไรตกไปถึงสาธารณะชน ก็อย่าไปเริ่มทำมัน

ที่มา : CNN
แปล, เรียบเรียง : thaiitnewsupdate.blogspot.com

Comments