อนาคตของระบบนำทาง GPS


(CNN) -- ทศวรรษทีผ่านมาอุปกรณ์นำทาง GPS เช่นของ Garmin และ Tomtom ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ใช้รถใช้ถนนกันอย่างมาก แต่จากการศึกษาของ Berg Insight จากสวีเดนพบว่ายุคสมัยของมันอาจกำลังจะสิ้นสุดลงแล้วเนื่องจากคนหันมาให้ความเชื่อถือกับระบบ GPS บนโทรศัพท์มือถือของพวกเขาแทน


Berg กล่าวว่าอุปกรณ์นำทางส่วนบุคคล (Personal Navigation Devices, PNDs) จำนวน 42 ล้านเครื่องจะถูกส่งมอบในปี 2011 ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุด แล้วหลังจากนั้นจะลดปริมาณลง ในตลาดหลักมีปริมาณการติดตั้งอุปกรณ์นำทางส่วนบุคคลสูงมากอยู่แล้ว มันจะต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้อย่างสมาร์ทโฟนและระบบนำทางราคาถูก


ปัจจุบันสมาร์ทโฟนมีระบบนำทางแบบ turn-by-turn พร้อมเสียงที่สร้างขึ้นบน Google Map สำหรับ Android (Engadget รายงานว่ามีแอพพลิเคชั่นของ Garmin สำหรับ Android แต่มีในโทรศัพท์มือถือที่ผลิตโดย ASUS เพียงเท่านั้น)


สำหรับ iPhone และ iPad มีแอพพลืิเคชั่น NavFree เป็นระบบนำทาง ส่วน Blackberry มีระบบนำทางแบบ built-in navigation ร่วมกับแอพพลิเคชั่นของ Garmin ส่วนรถยนต์รุ่นใหม่ๆนั้นติดตั้ง GPS-enabled และระบบสื่อสารเช่น Ford Sync


ผมเคยใช้ระบบนำทางสั่งงานด้วยเสียงผ่านแฮนด์ฟรีกับ Droid ในขณะขับรถโดยไม่ต้องมีอุปกรณ์เพิ่มเติมอื่นใด และมันก็ทำงานได้ดีทีเดียว


แต่ก็มีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่งเมื่อใช้ระบบนำทาง GPS-enabled turn-by-turn พร้อมกับแผนที่แบบเรียลไทม์บนโทรศัพท์มือถือนั้นจะใช้พลังงานจากแบตเตอรี่อย่างมาก และอาจมีประสิทธิภาพต่ำเมื่ออยู่ในพื้นที่ๆสัญญาณอ่อน


ปัจจุบันนี้แบตเตอรี่สำหรับสมาร์ทโฟนเกือบทุกรุ่นนั้นมีอายุการใช้งานสั้นอยู่แล้ว ไม่เพียงพอต่อการใช้งานปกติ หลายๆเครื่องใช้งานได้ไม่ถึงวันหากปราศจากการชาร์จใหม่หากใช้งานจำพวกแผนที่ เปิดเวป อีเมล์ หรือแม้แต่เปิดความสว่างหน้าจอเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจำเป็นต้องทำเมื่อใช้งานในตอนกลางวัน


เมื่อต้องการใช้งานระบบนำทาง turn-by-turn บนโทรศัพท์มือถือ ผู้ใช้จำเป็นต้องเปิดระบบ GPS tracking ซึ่งมันต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่อย่างมากเพื่อทำการค้นหาตำแหน่งและติดต่อกับสัญญาณดาวเทียมจากหลายๆดวง รวมทั้งเมื่อผู้ใช้งานผ่านเข้าไปในพื้นที่ๆสัญญาณเครือข่ายต่ำ ทำให้โทรศัพท์มือถือต้องทำงานอย่างหนักเพื่อรักษาการเชื่อมต่อและส่งถ่ายข้อมูล นั่นยิ่งต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่มากยิ่งขึ้นอีก


ถ้าต้องการใช้สมาร์ทโฟนหรือ tablet เป็นระบบนำทางเมื่อใช้รถยนต์ ผู้ใช้งานควรจะมีชาร์จเจอร์ติดไว้ในรถด้วยถึงจะดี มิเช่นนั้นอาจจะไปถึงจุดหมายในขณะที่โทรศัพท์เกือบจะหมดแบตเตอรี่ หรือถ้าเลวร้ายกว่านั้นก็อาจจะหลงทางได้


นอกจากนั้นแล้วโทรศัพท์มือถือและ tablet ยังต้องดาวน์โหลดแผนที่และข้อมูลที่เกี่ยวข้องผ่านระบบสัญญาณเครือข่าย ถ้าผู้ใช้อยู่ในพื้นที่สัญญาณต่่ำก็อาจต้องใช้เวลาในการดาวน์โหลดนานหรืออาจจะโหลดไม่ได้เลยก็ได้


นอกจากนั้นยังอาจเป็นอันตรายเมื่อผู้ใช้งานพยายามอ่านแผนที่ขนาดเล็กบนโทรศัพท์มือถือในขณะขับขี่


ด้วยเหตุผลเหล่านี้ผมจึงคิดว่าระบบนำทางส่วนบุคคลแบบดั้งเดิมที่ใช้กับรถยนต์ไม่น่าจะสูญหายไปทั้งหมด ตลาดกลุ่มนี้จึงไม่น่าจะหดตัวลงมากนัก และอาจจะมุ่งเป้าไปที่ยานพาหนะมากกว่าลูกค้ารายบุคคล โรงงานผู้ผลิตได้เคยพยายามเพิ่มเติมฟีเจอร์เข้าไปเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้าแล้วแต่ก็ไม่ได้ผล


เช่นเดียวกับตลาดนาฬิกาข้อมือที่ลดหายไปเพราะโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ดิจิตอลที่มาพร้อมกับฟังชั่นนาฬิกาและนาฬิกาปลุก แต่ตลาดนาฬิกาข้อมือนี้ก็ยังไม่ได้หายไปทั้งหมด จากข้อมูลของ Adam Mcfarland analyzed wristwatch trends


"ผมมั่นใจว่ามันมีความสัมพันธ์กันระหว่างการเพิ่มขึ้นของการใช้งานโทรศัพท์มือถือกับการลดลงของการใช้งานนาฬิกาข้อมือ และผมยังคิดว่าที่ตลาดนาฬิกาข้อมือไม่ได้ลดฮวบลงไปเลยทีเดียวเนื่องจากผู้คนยังต้องการนาฬิกาข้อมือไว้เป็นเครื่องประดับเป็นเหตุผลหลัก และดูเวลาเป็นเรื่องรองลงไป" Adam กล่าว


ที่มา : CNN

แปล, เรียบเรียง : thaiitnewsupdate.blogspot.com

Comments