Google's Android เทพบุตรหรือซาตาน?


NEW YORK (CNNMoney.com) -- ระบบปฏิบัติการ Google's Android ได้รับเครดิตที่ช่วยให้โรงงานผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือรอดพ้นจากภาวะชงักงัน แต่มันอาจจะเป็นผู้ทำลายในท้ายที่สุด


ก่อนที่จะมีระบบปฏิบัติการ Android ออกสู่ตลาด โทรศัพท์มือถือส่วนใหญ่ใช้ฮาร์ดแวร์และระบบปฏิบัติการแบบเฉพาะตัวของแต่ละผู้ผลิต อย่างเช่น LG, Samsung, Motorola และแบรนด์อื่นๆซึ่งล้วนแล้วแต่แตกต่างกัน


แต่นี่เป็นครั้งแรกของวงการโทรศัพท์มือถือที่มีมาตรฐานของระบบปฏิบัติการเกิดขึ้นมา อย่างน้อยที่สุดก็มีผู้ผลิตเป็นโหลที่นำเอาสมาร์ทโฟนในระบบปฏิบัติการ Android ออกสู่ตลาดมากกว่า 90 รุ่นและมากกว่า 3 ใน 4 ส่วนนั้นใช้ชิพเซทของ Qualcomm (อ้างอิงค์จากการศึกษาของ PRTM)


มาตรฐาน Qualcomm-Android หรือ Quadroid ที่เรียกโดย PRTM กำลังเดินตามรอย Window-Intel หรือ Wintel ที่ถูกสร้างขึ้นมาในยุค 1990


โปรแกรมและฮาร์ดแวร์ของ Quadroid เป็นสินค้าหลักที่ซื้อขายกันเช่นเดียวกับ PC ของ Wintel มันเหมือนกันในโทรศัพท์ทุกเครื่อง ทำให้การสร้างความแตกต่างเป็นเรื่องยาก โทรศัพท์รุ่นใหม่ๆจึงมีความแตกต่างกันน้อยมากเช่นอาจจะแตกต่างกันที่ Kickstands, หน้าจอแบบคู่, กล้องถ่ายรูปความละเอียดสูง, จอ touchscreen แบบ OLED ที่ผู้ผลิตต่างพยายามทำให้แตกต่างกัน


มันเป็นปัญหาที่ผู้ผลิตเครื่อง PC ของ Wintel เคยพยายามที่จะแก้ไขมาแล้วแต่เกือบทั้งหมดนั้นไม่ได้ผล เช่น ความสามารถในการปรับแต่งของ Dell การออกแบบเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Alienware และลวดลายแบบวัวของ Gatway


แต่ Quadroid นั้นก็ยังมีข้อแตกต่าง มันเปิดกว้างสำหรับผู้ผลิตให้ทำการปรับแต่งได้จนเกือบจะไม่มีข้อจำกัด ทำให้ผู้ผลิตรายย่อยสามารถผลิตสมาร์ทโฟนที่สามารถต่อสู้กับคู่แข่งรายใหญ่ได้ เมื่อ 2 ปีก่อนไม่มีใครรู้จัก KTC หรือ Kyocera, LG ที่ไม่เคยมีสมาร์ทโฟนเป็นตัวตน และ Motorola ที่ไม่มีใครเหลียวแล แต่ตอนนี้ผู้ผลิตเหล่านี้กลายเป็นแถวหน้าของตลาดไปแล้ว


ในการที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าของสมาร์ทโฟนนั้น ผู้ผลิตจำเป็นที่จะต้องพัฒนาให้เร็วขึ้นกว่าเดิมเพื่อต่อสู้กับผู้ผลิตรายอื่น ในช่วงต้นของปีนี้อายุเฉลี่ยของเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนที่ใช้ชิพเซทของ Qualcomn ปรับลดลงจาก 8 เดือนเหลือเพียง 4 เดือน


ซึ่งนั่นหมายถึงผลกระทบต่อผลกำไรอย่างแน่นอน แม้ว่าสัดส่วนของกำไรในขณะนี้จะอยู่ที่ประมาณ 30% และ 35% ก็ตามแต่ PRTM คาดว่ามันจะลดลงจนเหลือเพียง 8% ถึง 10% เช่นเดียวกับผู้ผลิต PC ของ Wintel


สรุปแล้ว PRTM เชื่อว่าจะเหลือเพียงผู้ผลิตรายใหญ่เพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่จะเอาตัวรอดได้ เช่นเดียวกับที่มันเคยเกิดขึ้นมาแล้วกับผู้ผลิต PC


ที่มา : CNN

แปล, เรียบเรียง : thaiitnewsupdate.blogspot.com

Comments